เข้าสู่ระบบ
| สมัครสมาชิก | ส่วนช่วยเหลือ | ชำระเงิน(บัตรเครดิต) | ตรวจสอบสถานะการจัดส่งใบเสร็จ | ติดตามเรา:

ข้อมูลงานศพ

หน้าแรก > งานศพ > งานศพนายกิตตติศักดิ์ ศิริรักษ์ ป.ช.ม., ม.ว.ม

กำหนดการบำเพ็ญกุศล

นายกิตตติศักดิ์ ศิริรักษ์ ป.ช.ม., ม.ว.ม

 

อดีตผู้พิพากษาศาลอุธรณ์

 
     
 

สวดพระอภิธรรม


 
 
ณ ศาลา 5 วัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กทม.
 
 
วันพุธที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
 
 
เวลา 18:30 น.
 
 
ถึง
 
 
วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
 
 
เวลา 18:30 น.
 
     
 

พิธีพระราชทานเพลิงศพ


 
 
ณ เมรุ วัดตรีทศเทพวรวิหาร เขตพระนคร กทม.
 
 
วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2565
 
 
เวลา 15:00 น.
 
 

จึงขอกราบเรียนและเรียนเชิญมาด้วยความเคารพ

 
 
วันที่ 11/05-65 เวลา 16.00 น. พิธีรดน้ำศพ, วันที่ 13/05-65 กับ 15/05/65 งดสวดพระอภิธรรมศพ
 

จัดทำโดย มีสติ.com

<--- นายดาระใน ยี่ภู่...

นายสาโรช คัชมาตย์ ม.ป.ช ม... --->


แผนที่งานศพ

งานศพนี้ยังไม่มีแผนที่
  • งานศพ

    คุณ: ผู้ประกาศงานศพ วันศุกร์ ที่ 11 เมษายน 2565 ตอน 17:10 น.แจ้งลบ

  • งานศพ

    คุณ: ผู้ประกาศงานศพ วันศุกร์ ที่ 12 เมษายน 2565 ตอน 09:46 น.แจ้งลบ

  • งานศพ

    คุณ: ผู้ประกาศงานศพ วันศุกร์ ที่ 12 เมษายน 2565 ตอน 09:47 น.แจ้งลบ

  • งานศพ

    คุณ: ผู้ประกาศงานศพ วันศุกร์ ที่ 12 เมษายน 2565 ตอน 09:47 น.แจ้งลบ

  • งานศพ

    พี่พัฒน์ "เสาหลัก และต้นแบบที่ดีของลูกหลานตระกูลศิริรักษ์,โชติชูช่วง,ตัญจนะ"
    พ่อเล่าและย้ำเตือนพวกเราเสมอว่าให้ขยันเรียนหนังสือและทำตัวเองให้ดีเหมือน"เณรจ้วน"(พี่พัฒน์ของน้องๆ หรือพี่กิตติศักดิ์ ศิริรักษ์) พ่อเล่าว่าพ่อทำนา,ทำโรงสีข้าว และเลี้ยงหมูเป็นอาชีพเลี้ยงดูครอบครัว แล้วมีตำรวจที่เป็นลูกน้องคนสนิทของนายอำเภอจับหมูในคอกของพ่อไปฆ่ากินเป็นกับแกล้มเหล้าโดยไม่ได้ขอหรือซื้อเพราะถืออำนาจว่าเป็น"นาย" พ่อเลยไปแจ้งความดำเนินคดี แต่นายอำเภอไม่ให้รับแจ้งความ ให้ตำรวจชดใช้เงินตามราคาหมู ตอนเย็นขณะที่พ่อกำลังผ่าฟืน จะใช้ต้มปลายข้าวเลี้ยงหมูตำรวจคนนั้นเดินเข้ามาด้วยอาการเมาเหล้า แล้วชี้หน้าด่าพ่อว่าหัวหมอ ไม่เกรงใจ"นาย"พร้อมกับปลดปืนคาร์บินที่สะพายคล้องไหล่อยู่จะยิงพ่อ พ่อต้องใช้ขวานฟันเพื่อป้องกันตัวไป ๑ ครั้ง จนตำรวจคนนั้นล้มลง แล้วพ่อก็ไปมอบตัวสู้คดี นายอำเภอโกรธมากที่ไปทำร้ายร่างกายของลูกน้องเขา ควบคุมตัวดำเนินคดี ห้ามเยี่ยม ห้ามประกัน แล้วยังกลั่นแกล้งย้ายแม่ที่ท้องแก่ใกล้คลอดพี่ศักดิ์(พี่ชายติดกับผม)ซึ่งสอนอยู่โรงเรียนใกล้บ้านไปโรงเรียนวัดศรีไชยซึ่งห่างไกลและทุรกันดาร ไม่มีถนนต้องเดินลัดทุ่งนาไปสอนหนังสือ แม่เอาปิ่นโตใส่อาหารส่งให้พ่อที่ถูกคุมขังอยู่ที่โรงพักและไม่ได้กินข้าวมา ๒ วันแล้วก็โดนไล่ลงจากโรงพัก เดินร้องให้ไปหาตาหลวงซ้อน(กำนันซ้อน สุวรรณคีรี)น้าชาย ตาหลวงซ้อนต้องหิ้วปิ่นโต
    ที่ใส่อาหารให้พ่อ บอกตำรวจว่าเอาข้าวมาให้หลายเขยกิน ตำรวจเกรงใจกำนัน รับปิ่นโตไว้ แต่พอตาหลวงซ้อนเดินลงจากโรงพักตำรวจก็เทข้าวกองกับพื้นห้องขังให้พ่อกินเหมือนหว่านข้าวให้ไก่กิน ช่วงนั้นครอบครัวพวกเราถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทุกทาง โชคดีที่ลุงคล้าย(นายคล้าย ละอองมณี)ทนายความ ธรรมศาสตร์บัณฑิต เป็นทนายความสู้คดีให้ จนศาลมีคำพิพากษายกฟ้องพ่อ เพราะป้องกันพอสมควรแก่เหตุ พ่อพ้นคดีมาแล้วก็ยังถูกนายอำเภอกับตำรวจกลั่นแกล้งอยู่เป็นประจำ จนพี่พัฒน์ซึ่งขณะนั้นรับราชการครู ทนไม่ไหวที่เห็น"น้าบ่าว"ถูกรังแก ต้องลาออกจากข้าราชการครู ไปเรียนนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งตอนนั้นยังเป็นตลาดวิชา พี่พัฒน์บอกกับทุกคนว่า ผมเป็นครู น้าบ่าวถูกรังแก ผมช่วยอะไรไม่ได้ ผมจะไปเรียนธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นผู้พิพากษาให้ได้ ผมจะให้ความยุติธรรมกับทุกคนในฐานะผู้พิพากษาให้ได้
    พ่อบอกว่า ก่อนเดินทางไปเรียนธรรมศาสตร์ พี่พัฒน์ได้บอกพ่อว่า"น้าบ่าว ต้องให้น้องๆเรียนหนังสือทุกคนนะ เขาจะได้มีความรู้ มีงานทำ ไม่ต้องถูกข้าราชการเอาเปรียบ รังแก เหมือนรุ่นพวกเรา" พ่อจึงให้พวกผม,หลานๆ เรียนหนังสือกันทุกคน พ่อบอกผมว่า"ตั้งใจเรียนหนังสือ พี่พัฒน์เป็นตัวอย่าง แล้วเป็นนายอำเภอให้ได้ เป็นนายอำเภอแล้วให้ทำตัวดีๆอย่าอุบาทว์เหมือนนายอำเภอบ้านเราคนนี้"
    พี่พัฒน์เข้ากรุงเทพฯสอนหนังสือที่โรงเรียนช่องนนทรีย์ด้วย เรียนหนังสือที่ธรรมศาสตร์ด้วย ขณะเดียวกันก็ยังดูแลน้องๆ ทั้งพี่ชำนาญ(ดร.ชำนาญ ศิริรักษ์) พี่นงค์(อนงค์ ศิริรักษ์) พี่ยา(วิญญา โชติชูช่วง)รวมถึงญาติๆอีกหลายคน ให้พักอาศัย เรียนหนังสือ อยู่ที่บ้านเช่าเลขที่ ๓๗/๑ ตรอกวัดจันทร์ใน เป็นที่พึ่ง เป็นเสาหลักให้น้องๆทุกคน จนถึงรุ่น พี่ยืน พี่ศักดิ์ ผม และหลานของลุงพัฒน์อีกหลายคน พี่พัฒน์ดูแลเอาใจใส่พวกเราเหมือนลูก จนพี่พัฒน์จบนิติศาสตร์บัณฑิต และสอบเนติบัณฑิตไทยได้ สอบเป็นผู้พิพากษาได้ สมดังตั้งใจ
    พี่พัฒน์เป็นผู้พิพากษาครั้งแรกที่ศาลจังหวัดพัทลุง ญาติพี่น้องในตระกูลศิริรักษ์,โชติชูช่วง,ตัญจนะ ภูมิใจและดีใจกันมากที่พวกเราได้เป็น"นาย" และที่ภูมิใจมากขึ้นกว่านี้อีกก็คน ไม่ว่าพี่พัฒน์จะเป็นผู้พิพากษาศาลไหน ทั้งชุมพร ราชบุรี หัวหน้าศาลจังหวัดปากพนัง หัวหน้าศาลจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา จนเกษียณอายุราชการในตำแหน่ง ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ ทุกคนที่รู้จัก เคยสัมผัสการทำงานของพี่พัฒน์พูดถึงพี่พัฒน์เป็นเสียงเดียวกันว่า"เป็นผู้พิพากษาที่ซื้อสัตย์ สุจริต ปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรงและเที่ยงธรรม เป็นต้นแบบที่นักกฎหมายที่ดียึดถือเป็นแบบอย่างได้"
    แต่สำหรับน้องๆลูกๆหลานๆ พี่พัฒน์เป็นยิ่งกว่าที่กล่าวมาข้างต้น ตระกูลของเรามีวันนี้ได้ เพราะพี่พัฒน์เป็นต้นแบบ เป็นคนช่วยเหลือ อุ้มชู ประคับประคอง ให้พวกเรามีวันนี้ที่ภาคภูมิได้ เรามีลูกหลานที่มีความรู้ ความสามารถ มีคุณงามความดี ให้คนทั่วไปยกย่อง เพราะพี่พัฒน์เป็นเบ้าหล่อมหลอมพวกเรา
    ผมเรียนหนังสือจบ สอบบรรจุเข้ารับราชการได้ พี่พัฒน์นังห่วงใย ดูแล สั่งสอนทุกเรื่อง เป็นปลัดอำเภอ นายอำเภอ ปลัดจังหวัด รองผู้ว่าราชการจังหวัด พี่พัฒน์ไม่เคยลืมหน้าที่ดูแล แนะนำ สั่งสอน อบรมน้องชายคนนี้ด้วยความรัก ห่วงใย
    ยังจำได้ว่าจนถึงทุกวันนี้ พี่พัฒน์บอกว่า เป็นข้าราชการ ต้องซื่อสัตย์สุจริต ต้องไม่ข่มเหงรังแกประชาชน ต้องช่วยเหลือคนทุกข์ยาก เราเคยถูกข้าราชการข่มเหงรังแกมาก่อน เมื่อมาเป็นข้าราชการต้องไม่ทำในสิ่งที่เราเคยถูกเขาข่มเหงรังแก อย่าลืมกลอนแม่สอนลูก จำให้ขึ้นใจและถือปฏิบัติให้ได้
    "ก่อนไปรับราชการทำงานหลวง
    แม่เป็นห่วงกลัวลูกชายทำขายหน้า
    เฝ้าสอนสั่งเสียมากก่อนจากมา
    เกรงกิเลสตัณหามันพาไป
    แม่ว่าแม่คนจนคนบ้านนอก
    เคยช้ำชอกแสนเข็ญดั่งเป็นไพร่
    เจ้าได้ดีภายหน้าอย่าเริงใจ
    อย่าหลงใหลลืมเงาว่าเราจน
    อย่าหยิ่งดื้อถือดีว่ามีเกียรติ
    คนจะเหยียดหยันไปไม่เป็นผล
    อย่าแบ่งชั้นให้ต่างระหว่างชน
    ให้พลีตนรับใช้ชาติอย่าเป็นพาล
    อย่าริอ่านโกงกินสินบนราษฎร์
    เงินของชาติอย่าเอาไปเผาผลาญ
    คนที่รวยด้วยอำนาจราชการ
    อีกไม่นานก็ยับด้วยอัปรีย์
    คนเขาจะจริงใจนบไหว้เจ้า
    ใช่พราะเอายศใหญ่ไปข่มขี่
    ราษฎร์จะรักศรัทธาบารมี
    ก็ด้วยดีที่เจ้าทำจงจำไว้
    จงกินอยู่อย่างประมาณการประหยัด
    ถึงอึดอัดขัดสนทนไม่ไหว
    ก็อย่าโกงให้เสนียดมันเสียดใจ
    รีบกลับไปบ้านเรามีข้าวกิน"
    วันนี้ พี่พัฒน์ จากพวกเราไปแล้ว แต่สิ่งที่พี่พัฒน์ให้กับน้องๆลูกๆหลานๆในตระกูลศิริรักษ์ โชตชูช่วง ตัญจนะ ยังคงอยู่ และเป็นหน้าที่พวกเราจะสืบทอด สานต่อ ให้คุณงามความดีจองพี่พัฒน์ธำรงสืบต่อไปตราบนานเท่านาน
    สมโภช โชติชูช่วง
    อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่

    คุณ: ผู้ประกาศงานศพ วันศุกร์ ที่ 12 เมษายน 2565 ตอน 09:48 น.แจ้งลบ

ท่านสามารถร่วมไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตได้ที่นี่

ชื่อของท่าน *

อีเมลล์ของท่าน

คำไว้อาลัย *


(เฉพาะสมาชิกเท่านั้น จึงจะสามารถแนบรูปคู่กับคำไว้อาลัยได้)


กรุณากรอกตัวอักษรที่ปรากฏ *

เงื่อนไขการร่วมไว้อาลัย

ข้อความไว้อาลัยทั้งหมด เกิดจากการเขียนโดยสาธารชน และทำการส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ ทาง mesati.com ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้ไว้อาลัยที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้ร่วมไว้อาลัยท่านอื่นจึงควรใช้วิจารญาณในการอ่านคำไว้อาลัย ถ้าหากท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฏหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อผู้เสียชีวิต หรือ ญาติมิตรของผู้เสียชีวิต กรุณาส่ง email มาที่ suppport@mesati.com เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้นออกจากระบบ ขอขอบพระคุณผู้ใช้บริการ mesati.com ทุกท่าน ณ โอกาสนี้

ตะกร้าสินค้า

ไม่มีพวงหรีดในตระกร้าของท่าน

อัลบั้มงานศพ


ยังไม่มีอัลบั้มในงานศพนี้
เพิ่มเพื่อน
  • เว็บในเครือ



มีสติบนสื่อไทย